Blackjack หรือ แบล็คแจ็ค เกมไพ่ที่เราจะรู้จักกันดี เกมโก๋ 21 แต้ม ที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละครับ ด้วยรูปแบบการเล่นที่ง่าย สามารถทำความเข้าใจ ได้อย่างรวดเร็ว เกมไพ่ที่มีเสน่ห์อยู่ที่ ไม่จำเป็นต้องใช้ความคิด หรือเทคนิคออะไรให้วุ่นวาย เพียงแค่คำนวนผลรวม ของไพ่ที่ถือในมือ ให้เข้าใกล้แต้ม 21 แต้มก็พอแล้ว ง่ายๆแค่นี้ ก็คงไม่แปลกใจมั้ยหล่ะครับ ว่าทำไมนักพนัน ถึงให้ความนิยมกันนักกันหนา เกมพนันที่มีความนิยม และเล่นกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยอดีต มาจนถึงยุคที่เทคโนโลยี มีบทบาทเป็นอย่างมาก โดยที่เราสามารถที่จะเข้าใช้งาน เข้ามาลงเดิมพันกับไพ่แบล็คแจ็ค ได้บนโลกออนไลน์แล้ว วันนี้จะมีโอกาสอันดี ที่ทางเราจะมาแนะนำกัน เกี่ยวกับวิธีการเล่น วิธีการเข้าเดิมพัน คำศัพท์ต่างๆที่ใช้งานกัน ซึ่งสำหรับมือใหม่แล้ว ผมบอกได้เลยว่า มีประโยชน์อย่างแน่นอน
ประวัติของเกมไพ่ แบล็คแจ็ค
ถึงแม้ว่าเกไพ่ แบล็คแจ็ค จะมีความทันสมัย ตรงที่สามารถจะเล่น UFABET บนมือถือได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว จุดกำเนิดของมัน มีมาอย่างยาวนานมากๆ เกมๆนี้มีจุดกำเนิดมา 400 ปีแล้ว ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้น จะนิยมเล่นกันในแถบยุโรป ซึ่งรูปแบบการเล่น ก็จะละม้ายคล้ายกับทุกวันนี้แหละ ต่อมาความนิยมก็ได้แพร่หลาย ไปยังแถบประเทศอเมริกา ในศตวรรษที่ 18 แต่ในครั้งแรกที่เขาไปนั้น ก็ยังไม่ได้รับความนิยม แต่เมื่อมีการพัฒนามาเรื่อยๆ ความนิยมจึงเริ่มแพร่หลาย ความนิยมเริ่มมีอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงช่วงศตวรรษที่ 19 แบล็คแจ็ค ก็ถูกหยิบยกขึ้นมา เป็นเกมพนันที่ถูกกฏหมาย อีกรูปแบบนึง ถูกจัดเข้าไปอยู่ ในเกมเดิมพันของคาสิโน โดยที่วิธีของการเล่นนั้น ก็จะดูจากผลรวมของแต้ม ที่อยู่บนหน้าไพ่ต้องใกล้เคียง 21 แต้ม โดยห้ามเกินเด็ดขาด ซึ่งแต้มจะต้องไม่ต่ำกว่า 16 แต้ม เพราะเกมๆนี้ เค้าจะเปิดให้เราจั่วอย่างอิสระ
คำศัพท์ที่ใช้ใน Blackjack
เกมไพ่แบล็คแจ็ค ก็เป็นอีก 1 เกม ที่มีการใช้คำศัพท์ค่อนข้างเยอะ ซึ่งถ้าเป็นมือใหม่ ก็อาจจะงงๆ ว่าคำต่างๆที่เกิดขึ้น ตลอดการลงเดิมพันนั้น มันมีความหมายว่าอย่างไร โดยที่วันนี้เราจะมาอธิบายกัน เคล็ดลับการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค แอบบอกนิดนึงนะครับ ว่าจะมีไพ่อยู่ไม่กี่คู่หรอก ที่จะรวมกันได้ 21 แต้มพอดี นั่นคือ A คู่กับ 10 , A คู่กับ J , A คู่กับ Q , และ A คู่กับ K แวะบอกนิดนึง เผื่อใครได้ไพ่ เผื่อว่าใคร จะได้ไพ่ตามที่บอกไปนี้ มาต่อเรื่องคำศัพท์ของเรากัน
- Hit คือ สู้ การที่เรามีความประสงค์ ต้องการที่จะจั่วไพ่เพิ่ม เพื่อต้องการแต้ม ให้มีความใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด ซึ่งตรงนี้ต้องคิดให้รอบคอบ การจั่วทุกครั้ง มีโอกาสที่แต้มของเรานั้น จะมากกเกิน 21 นั่นเอง.
- Stand คือ อยู่ หรือ หยุด เราสามารถเลือก Stand ได้ หากว่าแต้มในมือของเรา เป็นที่น่าพอใจแล้ว เพื่อลดโอกาส ที่เราจะจั่วได้ไพ่ ที่จะทำให้แต้มองเราเสียได้ บางคนเลือกที่จะสู้แทนที่จะอยู่ สุดท้ายก็เสียกันมาเยอะ.
- Double Down คือ การเพิ่มจำนวนเงินเดิมพัน กรณีการเพิ่มเงินเดิมพัน จะเพิ่มเป็นเท่าตัว จากยอดเดิมิพันในตอนแรก อย่างเช่นในตอนเริ่มเกม คุณลงเดิมพันไป 100 บาท Double down ยอดจะเพิ่มเป็น 200 บาท
- Split คือ การแยกไพ่ จะสามารถทำได้ ในกรณีที่ไพ่ 2 ใบแรกของคุณนั้นซ้ำกัน อย่างได้ไพ่ในมือคือ 3,3 จะต้องทำการ Split เพื่อที่จะแยกไพ่ออกเป็น 2 กอง เสมือนว่าเรานั้น เล่นไพ่พร้อมกัน 2 ขานั่นเอง
- Insurance คือ การทำประกัน ทำประกันความเสี่ยง ในกรณีที่เราเพิ่มเงินเดิมพันไปแล้ว เกิดความกลัวขึ้นมา กลัวว่าเจ้ามือจะชนะ หากผลเป็นไปตามที่เราคาดคือ เจ้ามือสามารถเอาชนะเราได้ ซึ่งจะเป็นในกรณีที่ เจ้ามือได้แบล็คแจ็ค หรือ 21 แต้มเท่านั้น เราก็ยังจะได้เงินทุน ในส่วนที่ทำประกันไวกลับมา แต่หาหากว่าเจ้ามือดันแพ้ เราก็จะเสียเงินในส่วนนั้น ไปเลยแบบฟรีๆเช่นกัน
- Surrender คือ ยอมแพ้ กรณีที่ไพ่ในมือของเราไม่ดี เราสามารถเลือกที่จะ ยอมแพ้ โดยการเลือก Surrender เราจะได้รับเงินเดิมพัน กลับคืนมาครึ่งนึง แต่หากเราจั่วไปแล้ว เราจะไม่สามารถยอมแพ้ได้ จะต้องเป็นตอนที่ถือไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น.
- Even Money คือ อันนี้จะเป็นในส่วน ของการคิดและตัดสินใจ ว่าเราจะเลือกเก็บไพ่เอาไว้ หากว่าเรได้ไพ่แบล็คแจ็ค ซึ่งเมื่อใดที่พร้อม และมีความมั่นใจ ก็จะสามารถเลือกได้ว่า จะเอาไปลงเดิมพัน หรือ ไม่เดิมพันก็ได้ โดยที่นักพนันจะเป็นคนที่ตัดสินใจเอง
แบล็คแจ็ค มีกติกาในการลงเดิมพันอย่างไร
กฏและกติกา ของการลงเดิมพันไพ่ แบล็คแจ็คนั้น จะมีรูปแบบการเล่นที่เรียบง่าย ซึ่งจำนวนสำรับของไพ่ ที่ทางคาสิโนมักจะใช้งานกัน ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1-8 สำรับ ซึ่งกฏในการเล่น ก็คือจะนับผลรวม จากไพ่ในมือของเรา ให้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มเท่านั้นเอง ซึ่งคุณจะสามารถที่จะเลือกจั่วไพ่ กี่ครั้งก็ได้ โดยไม่มีขีดจำกัด แต่แต้มที่ได้จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม
- ในการเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค โอกาสที่แต้มระหว่างผู้เล่น จะเท่ากับแต้มของเจ้ามือ มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ โดยที่แต้มจะต้องอยู่ที่ 17-21 แต้ม ในการตัดสินว่า ใครจะเป็นผู้ชนะ จะอยู่ที่ว่าใครถือไพ่ แบล็คแจ็ค หรือถือไพ่ในมือ 21 แต้มนั่นเอง
- อัตราการจ่ายของไพ่แบล็คแจ็ค ไพ่แบล็คแจ็คคือไพ่ 2 ใบ ที่มีแต้มรวมกันเท่ากับ 21 แต้ม อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 5 เท่า ของยอดเงินเดิมพัน
- หากว่าไม่มีใคร ที่ถือไพ่แบล็คแจ็คในมือ ก็จะตัดสินกันที่ ใครที่มีแต้มใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากกว่ากัน
- ใครที่ถือไพ่ ที่มีแต้มเกิน 21 แต้มขึ้นไป จะถูกตัดสินว่า แพ้
- วิธีการอ่านแต้มบนหน้าไพ่ จะมีวิธีอ่านดังนี้
- ไพ่หน้า A จะมีแต้มเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม แล้วแต่กรณี
- ไพ่หน้า 2-9 จะมีแต้ม ตรงตามแต้มบนหน้าไพ่เลย ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน
- ไพ่หน้า J Q K จะมีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม
สุดท้ายนี้ ถ้านักพนันอยากได้เว็บพนันออนไลน์ ที่มีให้เลือกเล่นทั้ง เว็บแทงบอล และ เลือกเล่นทั้ง คาสิโนออนไลน์ จ้องมาเป็นสมาชิกที่ UFABET ที่มีครบทุกรูปแบบให้เราเลือกเดิมพัน